วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สื่อการเรียนรู้

ประเภทของสื่อการเรียนรู้(สื่อเทคโนโลยี)


ไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext)










หมายถึง ข้อความหรือกลุ่มของข้อความที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันโดยมีการนำเสนอแบบปฏิสัมพันธ์
โดยการนำข้อความที่ใช้มาเป็นจุดเชื่อมโยงซึ่งจะมีลักษณะเด่นกว่าข้อความอื่น เช่น การขีดเส้นใต้ 
การเน้นด้วยสี ตัวหนา หรือตัวเอียง เป็นต้น

ไฮเปอร์มีเดีย (Hypermedia)หมายถึงในระบบมัลติมีเดียได้นำหลักการของไฮเปอร์เท็กซ์มาเป็นส่วน

หนึ่งของการนำเสนอ จากเดิมที่เชื่อมโยงกันเฉพาะข้อความ มาเป็นเชื่อมโยงโดยการใช้ ภาพนิ่ง 
และวีดีโอ โดยเรียกกันว่า ไฮเปอร์มีเดีย องค์ประกอบของระบบไฮเปอร์เท็กซ์ ประกอบด้วย



ลิงค์(Link)หมายถึงการเชื่อมโยงเอกสารจากต้นทางไปปลายทางจำแนกลิงค์ออกได้เป็น 3 ชนิด 



1.ลิงค์ชนิดอ้างถึง(Referential Link)ใช้สำหรับเชื่อมโยงโดยอ้างถึงโดยตรงระหว่างจุดสองจุด 

เช่น ปุ่มที่มีข้อความลิงค์ไปข้างหน้า หรือย้อนกลับ



2.ลิงค์ชนิดแผนภูมิ(Organization Link)มีความคล้ายคลึงกับลิงค์ชนิดอ้างถึงจะแตกต่างกัน

ตรงที่ เป็นการเชื่อมโยงระหว่างโหนดด้วยกันในลักษณะที่เป็นโครงสร้างเป็นชั้นๆ (ไฮราคี่)



3.ลิงค์ชนิดคีย์เวิร์ด (Keyword Link) เป็นการนำกลุ่มคำหรือวลีต่างๆ

ที่มีความหมายและสัมพันธ์ระหว่างกันมาเชื่อมโยงด้วยวิธีการเดียวกับการลิงค์ชนิดอ้างถึงหรือแผนภูมิ




ไฮเปอร์บุ๊ก (Hyperbook)
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แต่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ก็คือหนังสือที่เก็บอยู่ใน

รูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ หรือเก็บไว้อยู่ในแบบของไฟล์ โปรแกรมส่วนมากที่เข้าใจกันคือ 
หนังสือที่เก็บในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องใช้กระดาษและมีการสร้างจากคอมพิวเตอร์และ
สามารถอ่านได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พีดีเอ
(Personal Digital Assistant) Palm และ PocketPC หรือกระทั่งอ่านได้
จากโทรศัพท์มือถือบางรุ่นE-book เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น 
ด้วยความสะดวกสบายของทั้งการสร้าง E-book ความสะดวกในการพกพา ขนาดที่เล็ก 
และสามารถอ่านได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอุปกรณ์พกพาที่สามารถอ่าน E-book ได้ สามารถสร้างให้
E-book นอกจากจะมีสีสันสวยงามเพื่อง่ายต่อการอ่าน และทำความเข้าใจแล้ว ยังสามารถใส่เสียง 
ภาพเคลื่อนไหว สร้างสารบัญ (Link) หรือการคลิกเพื่อส่ง E-Mail ไปยังผู้เขียน หรือ E-Mail
 ใน E-book ก็ได้



วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โครงงานพัฒนาเพื่อการศึกษา


โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา


เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน
หรือหน่วยการเรียนซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัดบททบทวนและคำถามคำตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ 
ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ การสอนไม่ใช่เป็นครูผู้สอนซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ
Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบ
การสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ  
โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรม
บทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งานระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ






2.  โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตผู้พัฒนา นาย เทพ รัตนเรืองจำรูญ และนายพงศกร พันธุ์พงษ์สิทธิ์ 
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์สโรชา สายเนตรสถานศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอัสสัมชัญ





3. โปรแกรมสนุกไปกับตารางธาตุ  ผู้พัฒนา เด็กหญิงวริศรา  พรหมมณี และเด็กหญิงกมลวรรณ  ทองงาน  
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ทัศนีย์  ระลึกมูล         สถานศึกษา โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก

4. โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษผู้พัฒนา เด็กหญิงวรรณรวัส  ยินดีเดช   
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา  หรูจิตตวิวัฒน์ สถานศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ กรุงเทพฯ






วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต


การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต



การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หมายถึง การเชื่อมต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือคอมพิวเตอร์ใดๆ หรืออุปกรณ์มือถือ หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆในอินเทอร์เน็ตได้ (เช่นอีเมลและเวิลด์ไวด์เว็บ) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider, ISP) เสนอการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้ประชาชนทั่วไปผ่านทางเทคโนโลยีต่างๆที่มีความหลากหลายของอัตราการส่งสัญญาณข้อมูล (ความเร็ว)
ผู้บริโภคใช้งานอินเทอร์เน็ต, ในช่วงต้นก่อนที่จะกลายเป็นที่นิยม, ผ่านทางโทรฯเข้า (dial-up) ซึ่งเป็นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในทศวรรษที่ 1980 และ 1990. ในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 ผู้บริโภคจำนวนมากใช้เทคโนโลยีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์ทำให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น
ประเภทของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสำคัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย ปัจจุบันการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่นิยมใช้มี 5 ลักษณะ คือ
1. การเชื่อมต่อแบบ Dial Up
2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN (Internet Services Digital Network)
3. การเชื่อมต่อแบบ DSL (Digital Subscriber Line)
4. การเชื่อมต่อแบบเคเบิล (Cable)
5. การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites)
1. การเชื่อมต่อแบบ Dial Up เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทำการติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกำหนดชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ต ข้อดี 1. อุปกรณ์มีราคาถูก 2. การติดตั้งง่าย 3. การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทำได้ง่าย ข้อเสีย
1. อัตราการรับส่งข้อมูลค่อนข้างต่ำเพียงไม่เกิน 56 kbit (กิโลบิต) ต่อวินาที
2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN (Internet Services Digital Network) 
เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ดังนั้นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ ISDN จะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ คือ
-ต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ที่ให้บริการการเชื่อมต่อแบบ ISDN -การเชื่อมต่อต้องใช้ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ -ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่จะใช้บริการนี้ อยู่ในอาณาเขตที่ใช้บริการ ISDN ได้หรือไม่ ข้อดี
1. ไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสูง และยังคงสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อพูดคุยไปได้พร้อม ๆ กับการเล่นอินเตอร์เน็ต ข้อเสีย
1. มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบ Dial-Up
3. การเชื่อมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตแบบ DSL ก็คือ -ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่ติดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการระบบโทรศัพท์แบบ DSL หรือไม่ -บัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในแบบ DSL -การเชื่อมต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ -ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย ข้อดี
1. มีความเร็วสูงกว่าแบบ Dial-Up และ ISDN ข้อเสีย 
1. ไม่สามารถระบุความเร็วที่แน่นอนได้
images
4. การเชื่อมต่อแบบเคเบิล (Cable)
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จึงทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีได้ โดยต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ -ใช้ Cable Modem เพื่อเชื่อมต่อ -ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย ข้อดี
1. ถ้ามีสายเคเบิลทีวีอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยเพิ่มอุปกรณ์ Cable Modem ก็สามารถเชื่อมต่อได้ ข้อเสีย
1. คือถ้ามีผู้ใช้เคเบิลในบริเวณใกล้เคียงมาก อาจทำให้การรับส่งข้อมูลช้าลง

clip7_image001
5. การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites) 
ระบบบริการแผนที่ดาวเทียมดิจิตอล ไทยแลนด์มาพร้อมกับระบบออนไลน์ ซึ่งเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลผ่านระบบเว็บเซอร์วิส โดยโครงการดิจิตอลไทยแลนด์ เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ องค์การมหาชน สนับสนุนฐานข้อมูลแผนที่จากภาพถ่ายดาวเทียมและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้พัฒนาระบบและเทคโนโลยี สำหรับแผนที่ดาวเทียมดิจิตอล ไทยแลนด์ ใช้งานคล้ายกับกูเกิ้ล เอิร์ธ แต่จะเหมาะกับความต้องการของคนไทย และเปิดให้บริการฟรี 2 เวอร์ชั่น คือ แบบบันทึกลงบนแผ่นซีดีรอม สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไป และสำหรับกระจายไปยังสถานศึกษา เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านภูมิสารสนเทศ ดร.ไพศาลบอกว่า การบันทึกลงบนแผ่นซีดีรอมเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านภูมิสารสนเทศในวงกว้างให้ถึงประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับรากหญ้าให้ได้สัมผัสเทคโนโลยีอวกาศ ซึ่งการเรียกดูแผนที่จากแผ่นซีดีรอมไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต จึงทำให้ประชาชนที่มีข้อจำกัดในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตใช้ประโยชน์ ส่วนเวอร์ชั่นที่เป็นระบบเว็บเซอร์วิสนั้นเหมาะสำหรับองค์กรและการใช้งานจะต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และภาพที่เห็นจะมีความละเอียด 1 เมตร ซึ่งหมายถึงสามารถมองเห็นวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 เมตรได้ เช่น หลังคาบ้าน หลังคารถยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ภาพที่เผยแพร่ในดิจิตอล ไทยแลนด์ จะปิดบังบางพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของประเทศด้วย เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องของความมั่นคง ขณะนี้ได้เปิดทดลองใช้แล้ว แต่เพื่อความสมบูรณ์จึงจะเผยแพร่ให้กับประชาชนทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ IPStar ดาวเทียมสื่อสารดวงใหม่ ขึ้นไปแล้ว ดูเรียบร้อยดี ระบบสื่อสาร ดาวเทียมคงจะก้าวหน้าไปอีกมาก เร็วๆ นี้ เป็นดาวเทียมที่ใหญ่ทีสุดในขณะนี้ รูปกลางเป็นพื้นที่ให้บริการ ที่เป็นวงกลมเล็กๆ จะเป็นพื้นที่ๆ ให้ความแรงสัญญานแบบความเข้ม สูง จานรับจะได้ไม่ต้องใหญ่มากนัก วงใหญ่ สัญญานจะต่ำกว่า จานรับจะโตมากขึ้น ท่านใดสนใจ ในทาง เทคนิคมากกว่านี้ จะลองหาให้ การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสำคัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเรียกว่า Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผู้ใช้ต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ -จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิ้ว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจากดาวเทียม -ใช้ Modem เพื่อเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต
ข้อดี 1. ส่งสัญญาณครอบคลุมไปยังทุกจุดของโลกได้ 2. ค่าใช้จ่ายในการให้บริการส่งข้อมูลของระบบดาวเทียมไม่ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ห่างกันของสถานีพื้นดิน ข้อเสีย 1. ต้องส่งผ่านสายโทรศัพท์เหมือนแบบอื่น ๆ 2. ความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำมากเมื่อเทียบกับแบบอื่น ๆ 3. ค่าใช้จ่ายสูง

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

New Technology 2014



Mobile Payment
       การใช้สมาร์ทโฟนเพื่อชำระเงินบริการและเซอร์วิสต่างๆ แทนการใช้กระเป๋าสตางค์เริ่มมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งจากประเทศชั้นนำและในประเทศที่กำลังพัฒนา ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนสำหรับบ้านเราคือเริ่มมีการใช้สมาร์ทโฟน (บางรุ่น) แทนบัตรโดยสารรถไฟฟ้า BTS แล้ว


LTE subscribers will double and 4G LTE will start to roll out



            เครือข่ายความเร็วสูง 4G LTE จะมีผู้ใช้งานทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2014 ส่วนในบ้านเราต้องจับตาดูว่า กสทช. จะสามารถจัดสรรการประมูลคลื่นความถี่ 4G LTE กับผู้ให้บริการเครือข่ายได้รวดเร็วเพียงใดและบทสรุปของคลื่นที่นำมาใช้งาน 4G LTE และ LTE-A (4.5G) จะออกมาเป็นอย่างไร


วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

application เพื่อการศึกษา

Wikipedia Lecturer


 




วันนี้มีแอปเด็ดสำหรับฝึกฟังเสียงภาษาอังกฤษมาฝากกันค่ะ หรือใครที่เก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้วแต่ขี้เกียจอ่านหนังสือ เราก็สามารถหาผู้ช่วยดีๆ มาอ่านหนังสือให้ฟังกันได้ค่ะ แอปที่ว่านี้ก็คือ Wikipedia Lecturer Free ที่จะขอแนะนำในวันนี้

ก่อนอื่นต้องไปดาวน์โหลดแอปตัวนี้มาใช้กันก่อนนะคะ เมื่อติดตั้งเสร็จและเปิดเข้าไปใช้แอปตัวนี้แล้วหน้าตาจะเป็นอย่างในภาพ จะมีปุ่มเสียง และมีช่องให้ค้นหา ให้พิมพ์ keyword ของเรื่องที่ต้องการอ่าน จะมีตัวช่วยเป็นชื่อที่เกี่ยวข้องโผล่ขึ้นมาให้เลือกด้วยค่ะ ก็สามารถจะเลือกชื่อที่ตรงกับความต้องการที่สุดได้

จากนั้นกดปุ่ม play ก็จะมีเสียงอ่านที่ใช้เสียงอ่านจาก Text to Speech (TTS) Engine ในเครื่องสมาร์ทโฟนปกติทั่วไปนี้แหล่ะค่ะ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งสำเนียงภาษา ขนาดของตัวอักษร เป็นต้น โดยการคลิกที่ Menu และ Setting ส่วนใครที่ต้องการปรับแต่งมากกว่านี้ก็ต้องเสียตังส์ซื้อแบบ Pro มาใช้งานกันค่ะ คราวนี้เราก็ได้ผู้ช่วยคนเก่งมาติวภาษาอังกฤษกันอย่างใกล้ชิดแล้วค่ะ

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประเภทของระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสิใจ


ประเภทของระบบสารสนเทศ

จงบอกความหมายของประเภทของระบบสารสนเทศที่ช่วยในการตัดสินใจ ทั้ง 2 ประเภท

     1) ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของบุคคล

         ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง (อังกฤษ: Executive information system: EIS) เป็นประเภทหรือส่วนย่อยจาก ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support Systems) มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูง โดยเป็นข้อมูลที่มีองค์ประกอบทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายทางกลยุทธ์นโยบาย ยุทธวิธี ปัญหาเฉพาะหน้า และการควบคุม EIS เน้นการแสดงกราฟิกและง่ายต่อการใช้ส่วนติดต่อผู้ใช้ พวกเขามีการรายงานที่แข็งแกร่งและเจาะลึกลงความสามารถในการ โดยทั่วไป EIS เป็น DSS ทั่วทั้งองค์กรที่จะช่วยให้ผู้บริหารระดับบนสุดวิเคราะห์เปรียบเทียบและเน้นแนวโน้มในตัวแปรที่สำคัญเพื่อให้พวกเขาสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานและระบุโอกาสและปัญหา EIS และข้อมูลเทคโนโลยีคลังสินค้าจะมาบรรจบกันในตลาด
       


     

     2) ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจแบบกลุ่ม

         GDSS เป็นระบบสารสนเทศประเภทหนึ่งของ DSS ซึ่งมีลักษณะเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะโต้ตอบได้ (interactive) ในการสนับสนุนงานแก้ไขปัญหาที่ไม่มีโครงสร้าง สำหรับผู้ตัดสินใจที่ทำงานกันเป็นกลุ่ม (De Santi & Gallespe, 1987) เป้าหมายของ GDSS คือการปรับปรุงประสิทธิภาพการประชุมและการตัดสินใจ หรือทั้งสองอย่าง โดยการช่วยสนับสนุนการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นภายในกลุ่ม ช่วยกระตุ้นความคิด ระดมความคิด และการแก้ปัญหาความขัดแย้ง



จงบอกความแตกต่างระหว่าง EIS กับ GDSS

         EIS จะสนับสนุนข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูง ที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายทางกลยุทธ์นโยบาย ยุทธวิธี ปัญหาเฉพาะหน้า และการควบคุม แต่ GDSS จะสนับสนุนในด้านการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นภายในกลุ่ม ช่วยกระตุ้นความคิด ระดมความคิด และการแก้ปัญหาความขัดแย้ง


ที่มา : 

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ระบบสารสนเทศ


1.)ระบบสารสนเทศ (Information System หรือ IS) คือระบบแบบเฉพาะเจาะจงชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นกลุ่มของส่วนประกอบพื้นฐานต่างๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกันในการเก็บ (นำเข้า)จัดการ (ประมวลผล) และเผยแพร่(แสดงผล) ข้อมูลและสารสนเทศและสนับสนุนกลไกลของผลสะท้อนกลับ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์

ความสำคัญของสารสนเทศ 
สารสนเทศแท้จริงแล้วย่อมมีความสำคัญต่อทุกสิ่งที่เกี่ยวข้อง เช่น ด้านการเมือง การปกครอง ด้านการศึกษา ด้าน เศรษฐกิจ ด้านสังคม ฯลฯ ในลักษณะดังต่อไปนี้
1.       ทำให้ผู้บริโภคสารสนเทศเกิดความรู้ (Knowledge) และความเข้าใจ (Understanding)ในเรื่องดังกล่าว ข้างต้น
2.      เมื่อเรารู้และเข้าใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องแล้ว สารสนเทศจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจ (Decision Making) ใน เรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
3.      นอกจากนั้นสารสนเทศ ยังสามารถทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหา (Solving Problem) ที่เกิดขึ้นได้อย่าง ถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ทันเวลากับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น


          2.) ตัวอย่างกระบวนการทำงานของระบบสาระสนเทศ 
  ระบบเอทีเอ็ม
       ระบบเอทีเอ็ม (Automatic Teller Machine : ATM) เป็นระบบที่อำนวยความสะดวกสบายอย่างมากให้แก่ผู้ใช้บริการธนาคาร และเป็นตัวอย่างเทคโนโลยีระบบสารสนเทศที่ได้รับการนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยในปีพ.ศ. 2520 เป็นปีที่มีการใช้เอทีเอ็มเครื่องแรกของโลก ธนาคารซิตี้แบงค์ในเมือง นิวยอร์กเริ่มให้บริการฝากและถอนเงินโดยอัตโนมัติแก่ลูกค้า ซึ่งสามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมวันเสาร์อาทิตย์ด้วย ในขณะที่ธนาคารอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ บนถนนสายเดียวกันให้บริการลูกค้าในเวลาปกติเท่านั้น คือ เฉพาะจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 8.00 - 14.00 น. หลังจากบ่ายสองโมงก็หมดโอกาสได้รับบริการฝากถอนเงินแล้ว เมื่อวิเคราะห์มุมมองในการแข่งขันของธนาคารในการให้บริการลูกค้า กล่าวได้ว่า ระบบเอทีเอ็มของ ธนาคารซิตี้แบงค์เป็นบริการใหม่ที่ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย และคล่องตัว ได้ดึงดูดลูกค้าจากธนาคาร อื่นมาเป็นลูกค้าของตัวเอง และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาเกือบสามเท่าตัวในช่วงเวลาประมาณ เดือน ก่อนที่ธนาคารคู่แข่งจะไหวตัวทัน และหันมาให้บริการเอทีเอ็มบ้าง 

3.)ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของระบบสารสนเทศ

1.ระบบสารสนเทศแบบประมวลรายการ(TPS:Transaction Processing Systems )

เป็นระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับการบันทึกและประมวลข้อมูลที่เกิดจาก ธุรกรรมหรือการปฏิบัติงานประจำหรืองานขั้นพื้นฐานขององค์การ เช่น การซื้อขายสินค้า การบันทึกจำนวนวัสดุคงคลัง เมื่อใดก็ตามที่มีการทำธุรกรรมหรือปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะเกิดขึ้นทันที เช่น ทุกครั้งที่มีการขายสินค้า ข้อมูลที่เกิดขึ้นก็คือ ชื่อลูกค้า ประเภทของลูกค้า จำนวนและราคาของสินค้าที่ขายไป รวมทั้งวิธีการชำระเงินของลูกค้า


2.ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS:Management Information System)

คือระบบที่ให้สารสนเทศ ที่ผู้บริหารต้องการ เพื่อให้สามารทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะรวมทั้งสารสนเทศภายในและภายนอกสารสนเทศที่เกี่ยวพันกับองค์กรทั้งในอดีตและปัจจุบัน นอกจากนี้ระบบนี้จะต้องให้สารสนเทศในช่วงเวลาที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในการวางแผนการควบคุม และการปฏิบัติการขององค์กรได้อย่าง ถูกต้อง แม้ว่าผู้บริหารที่จะได้รับประโยชน์จากระบบนี้สูงสุดคือผู้บริหารระดับกลาง แต่โดยพื้นฐานของระบบนี้แล้วจะเป็นระบบที่สามารถสนับสนุนข้อมูลให้ผู้บริหารทั้งสาม ระดับ คือทั้งผู้บริหารระดับต้น ผู้บริหารระดับกลางและผู้บริหารระดับสูง โดยระบบนี้จะให้รายงานที่สรุปสารสนเทศซึ่งรวบรวมจากฐานข้อมูลทั้งหมดของบริษัท

3.ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ(DSS:Decision Support System)

เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นจากระบบ MIS อีกระดับหนึ่ง เนื่องจาก ถึงแม้ว่าผู้ที่มีหน้าที่ในการตัดสินใจจะสามารถใช้ประสบการณ์หรือใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วในระบบเอ็มไอเอส ของบริษัท สำหรับทำการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพในงานปกติ แต่บ่อยครั้งที่ผู้ตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารในระดับสูงและระดับกลางจะเผชิญกับการตัดสินใจที่ประกอบด้วยปัจจัยที่ซับซ้อนเกินกว่าความสามารถของมนุษย์ที่จะประมวล เข้าด้วยกันได้อย่างถูกต้อง จึก ทำให้เกิดระบบนี้ขึ้น ซึ่งเป็นระบบที่สนับสนุนความต้องการเฉพาะของผู้บริหารแต่ละคน (made by order) ในหลายๆสถานะการณ์ ระบบ นี้มีหน้าที่ช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปได้อย่างสะดวก 


ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ



ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ คืออะไร
DSS เป็นซอฟแวร์ที่ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการ การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างตัวแบบที่ซับซ้อน ภายใต้ซอฟต์แวร์เดียวกัน นอกจากนั้น DSSยังเป็นการประสานการทำงานระหว่างบุคลากรกับเทคโนโลยีทางด้านซอฟต์แวร์ โดยเป็นการกระทำโต้ตอบกัน เพื่อแก้ปัญหาแบบไม่มีโครงสร้าง และอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นถึงสิ้นสุดขั้นตอนหรืออาจกล่าวได้ว่า DSS เป็นระบบที่โต้ตอบกันโดยใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อหาคำตอบที่ง่าย สะดวก รวดเร็วจากปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน ดังนั้นระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ จึงประกอบด้วยชุดเครื่องมือ ข้อมูล ตัวแบบ (Model) และทรัพยากรอื่นๆ ที่ผู้ใช้หรือนักวิเคราะห์นำมาใช้ในการประเมินผลและแก้ไขปัญหา ดังนั้นหลักการของDSS จึงเป็นการให้เครื่องมือที่จำเป็นแก่ผู้บริหาร ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีรูปแบบที่ซับซ้อน แต่มีวิธีการปฏิบัติที่ยืดหยุ่น DSS จึงถูกออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่เพียงแต่การตอบสนองในเรื่องความต้องการของข้อมูลเท่านั้น


Decision Support System (DSS) is a computer-based information system that supports business or organizational decision-making activities. DSSs serve the management, operations, and planning levels of an organization (usually mid and higher management) and help to make decisions, which may be rapidly changing and not easily specified in advance (Unstructured and Semi-Structured decision problems). Decision support systems can be either fully computerized, human or a combination of both.
While academics have perceived DSS as a tool to support decision making process, DSS users see DSS as a tool to facilitate organizational processes. Some authors have extended the definition of DSS to include any system that might support decision making. Sprague (1980) defines DSS by its characteristics:
  1. DSS tends to be aimed at the less well structured, underspecified problem that upper levelmanagers typically face;
  2. DSS attempts to combine the use of models or analytic techniques with traditional data access and retrieval functions;
  3. DSS specifically focuses on features which make them easy to use by noncomputer people in an interactive mode; and
  4. DSS emphasizes flexibility and adaptability to accommodate changes in the environment and the decision making approach of the user.