วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต


การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต



การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หมายถึง การเชื่อมต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือคอมพิวเตอร์ใดๆ หรืออุปกรณ์มือถือ หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆในอินเทอร์เน็ตได้ (เช่นอีเมลและเวิลด์ไวด์เว็บ) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider, ISP) เสนอการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้ประชาชนทั่วไปผ่านทางเทคโนโลยีต่างๆที่มีความหลากหลายของอัตราการส่งสัญญาณข้อมูล (ความเร็ว)
ผู้บริโภคใช้งานอินเทอร์เน็ต, ในช่วงต้นก่อนที่จะกลายเป็นที่นิยม, ผ่านทางโทรฯเข้า (dial-up) ซึ่งเป็นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในทศวรรษที่ 1980 และ 1990. ในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 ผู้บริโภคจำนวนมากใช้เทคโนโลยีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์ทำให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น
ประเภทของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสำคัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย ปัจจุบันการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่นิยมใช้มี 5 ลักษณะ คือ
1. การเชื่อมต่อแบบ Dial Up
2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN (Internet Services Digital Network)
3. การเชื่อมต่อแบบ DSL (Digital Subscriber Line)
4. การเชื่อมต่อแบบเคเบิล (Cable)
5. การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites)
1. การเชื่อมต่อแบบ Dial Up เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทำการติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกำหนดชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ต ข้อดี 1. อุปกรณ์มีราคาถูก 2. การติดตั้งง่าย 3. การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทำได้ง่าย ข้อเสีย
1. อัตราการรับส่งข้อมูลค่อนข้างต่ำเพียงไม่เกิน 56 kbit (กิโลบิต) ต่อวินาที
2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN (Internet Services Digital Network) 
เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ดังนั้นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ ISDN จะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ คือ
-ต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ที่ให้บริการการเชื่อมต่อแบบ ISDN -การเชื่อมต่อต้องใช้ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ -ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่จะใช้บริการนี้ อยู่ในอาณาเขตที่ใช้บริการ ISDN ได้หรือไม่ ข้อดี
1. ไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสูง และยังคงสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อพูดคุยไปได้พร้อม ๆ กับการเล่นอินเตอร์เน็ต ข้อเสีย
1. มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบ Dial-Up
3. การเชื่อมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตแบบ DSL ก็คือ -ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่ติดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการระบบโทรศัพท์แบบ DSL หรือไม่ -บัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในแบบ DSL -การเชื่อมต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ -ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย ข้อดี
1. มีความเร็วสูงกว่าแบบ Dial-Up และ ISDN ข้อเสีย 
1. ไม่สามารถระบุความเร็วที่แน่นอนได้
images
4. การเชื่อมต่อแบบเคเบิล (Cable)
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จึงทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีได้ โดยต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ -ใช้ Cable Modem เพื่อเชื่อมต่อ -ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย ข้อดี
1. ถ้ามีสายเคเบิลทีวีอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยเพิ่มอุปกรณ์ Cable Modem ก็สามารถเชื่อมต่อได้ ข้อเสีย
1. คือถ้ามีผู้ใช้เคเบิลในบริเวณใกล้เคียงมาก อาจทำให้การรับส่งข้อมูลช้าลง

clip7_image001
5. การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites) 
ระบบบริการแผนที่ดาวเทียมดิจิตอล ไทยแลนด์มาพร้อมกับระบบออนไลน์ ซึ่งเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลผ่านระบบเว็บเซอร์วิส โดยโครงการดิจิตอลไทยแลนด์ เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ องค์การมหาชน สนับสนุนฐานข้อมูลแผนที่จากภาพถ่ายดาวเทียมและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้พัฒนาระบบและเทคโนโลยี สำหรับแผนที่ดาวเทียมดิจิตอล ไทยแลนด์ ใช้งานคล้ายกับกูเกิ้ล เอิร์ธ แต่จะเหมาะกับความต้องการของคนไทย และเปิดให้บริการฟรี 2 เวอร์ชั่น คือ แบบบันทึกลงบนแผ่นซีดีรอม สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไป และสำหรับกระจายไปยังสถานศึกษา เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านภูมิสารสนเทศ ดร.ไพศาลบอกว่า การบันทึกลงบนแผ่นซีดีรอมเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านภูมิสารสนเทศในวงกว้างให้ถึงประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับรากหญ้าให้ได้สัมผัสเทคโนโลยีอวกาศ ซึ่งการเรียกดูแผนที่จากแผ่นซีดีรอมไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต จึงทำให้ประชาชนที่มีข้อจำกัดในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตใช้ประโยชน์ ส่วนเวอร์ชั่นที่เป็นระบบเว็บเซอร์วิสนั้นเหมาะสำหรับองค์กรและการใช้งานจะต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และภาพที่เห็นจะมีความละเอียด 1 เมตร ซึ่งหมายถึงสามารถมองเห็นวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 เมตรได้ เช่น หลังคาบ้าน หลังคารถยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ภาพที่เผยแพร่ในดิจิตอล ไทยแลนด์ จะปิดบังบางพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของประเทศด้วย เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องของความมั่นคง ขณะนี้ได้เปิดทดลองใช้แล้ว แต่เพื่อความสมบูรณ์จึงจะเผยแพร่ให้กับประชาชนทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ IPStar ดาวเทียมสื่อสารดวงใหม่ ขึ้นไปแล้ว ดูเรียบร้อยดี ระบบสื่อสาร ดาวเทียมคงจะก้าวหน้าไปอีกมาก เร็วๆ นี้ เป็นดาวเทียมที่ใหญ่ทีสุดในขณะนี้ รูปกลางเป็นพื้นที่ให้บริการ ที่เป็นวงกลมเล็กๆ จะเป็นพื้นที่ๆ ให้ความแรงสัญญานแบบความเข้ม สูง จานรับจะได้ไม่ต้องใหญ่มากนัก วงใหญ่ สัญญานจะต่ำกว่า จานรับจะโตมากขึ้น ท่านใดสนใจ ในทาง เทคนิคมากกว่านี้ จะลองหาให้ การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสำคัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเรียกว่า Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผู้ใช้ต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ -จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิ้ว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจากดาวเทียม -ใช้ Modem เพื่อเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต
ข้อดี 1. ส่งสัญญาณครอบคลุมไปยังทุกจุดของโลกได้ 2. ค่าใช้จ่ายในการให้บริการส่งข้อมูลของระบบดาวเทียมไม่ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ห่างกันของสถานีพื้นดิน ข้อเสีย 1. ต้องส่งผ่านสายโทรศัพท์เหมือนแบบอื่น ๆ 2. ความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำมากเมื่อเทียบกับแบบอื่น ๆ 3. ค่าใช้จ่ายสูง